เซลล์ (Cell)

 เซลล์เเละทฤษฎีเซลล์
      คือ เป็นการดำรงชีวิตอยูได้ด้วยการทำงานของระบบต่างๆ เช่น ระบบหมุนเวียนเลือด ระบบขับถ่าย
ระบบย่อยอาหาร เป็นต้น เเต่ยังมีระบบย่อยอาหารยังประกอบด้วย คืออวัยวะดังกล่าวมานี้เกิดจากเนื้อเยื่อที่ประกอบด้วยหน่วยย่อยเล็กๆหน่วยย่อยเหล่านี้เรียงว่า เซลล์ (Cell) คือ เซลล์เป็นหน่วยโครสร้างพื้นฐานที่มีชีวิตที่เล็กที่สุดในสิ่งมีชีวิต



นักวิทยาศาสตร์ที่ค้นพบเซลล 
เข้าได้บอกว่า พืชเเละสัตว์ต่างประกอบด้วยดครงสร้างเล้กๆ คือ เซลล์ ก่อนหน้านี้เมื่อประมาณ พ.ศ.2381 มัตทิอัส ชไลเดน นักพฤกษศาสตร์ชาวเยอรมันได้ค้นพบว่า พืชทั้หลายต่างเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีหลายเซลล์ เเละในปีถัดมา พ.ศ.2382 เทโอดอร์ ชวันน์นักสัตววิทยาชาวเยอรมัน ได้ประกาศว่าสัตว์ทั้หลายต่างก็มีเซลล์เป็นองค์ประกอบ นักวิทยาศาสตร์ทั้ 2 คนจึงได้ร่วมมือกันตั้ง  ทฤษฎีเซลล์ (cell theory) มีใจความว่า
สิ่งมีชีวิตทั้หลายประกอบด้วยเซลล์ และเซลลืคือหน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิตทุกชนิด
ทฤษฎีเซลล์ในปัจจุบันครอบคลุมถึงใจความสำคัญ 3 ประการคือ
   1. สิ่งมีชีวิตทั้งหลายอาจมีเซลล์เดียว หรือ หลายเซลล์ภายในสายพันธุกรรม
   2. เซลล์เป็นหล่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต
   3. เซลล์มีกำเนิดมาจากเซลล์เเรกเริ่ม เซลล์เกิดจากการเเบ่งตัวกันของเซลล์เดิม

1. โครงสร้างของเซลล์ที่ศึกษาด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน

     จากการศึกษามานั้นเซลล์ชนิดต่างๆมาเเล้ว จะพบว่าเซลล์ของสิ่งมีชีวิต มีรูปร่าง ขนาด เเละโครงสร้างเเตกต่างกัน เเต่ก็มีส่วนที่เหมือนกัน ได้เเก่ นิวเคลียส ไซโทพลาซึม และเยื้อหุ่มเซลล์
กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนศึกษาเซลล์ของสิ่งมีชีวิตพบว่าในไซโทพลาซึมมีโครงสร้างขนาดเล็กที่ทำหน้าที่เฉพาะเรียกว่า ออร์แกเนลล์ (Organelle)  มีหลายชนิดซึ่งมี ขนาด รูปร่าง จำนวย เเละหน้าที่ต่างกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดของเซลล์ สิ่งที่หน้าสนใจ  คือ  ออร์เเกเนลล์ในเซลล์

     สิ่งที่อยู่ในเซลล์สัตว์เเละเซลล์พืช 

เซลล์สัตว์ มีดังนี้

1. นิวเคลียส (nucleus)  คือ เป็นโครงสร้างที่มังพบอยู่ตรงกลางของเซลล์มีสีเข้มทึบ สังเกตได้ชัดเจน

2. ไลโซโซม (lysosome) คือ เป็นออร์แกแนลล์ ที่มีเมมเบรนห่อหุ้ม เพียงชั้นเดียว ซึ่งไม่ยอมให้เอนไซม์ต่างๆ ผ่านออก แต่เป็นเยื่อที่สลายตัว หรือรั่วได้ง่าย เมื่อเกิดการอักเสบของเนื้อเยื่อ

3. ไมโทคอนเดรีย (mitochondrion) คือ ทำหน้าที่เป็นแหล่งพลังงานของเซลล์ ถูกค้นพบครั้งแรกโดย คอลลิกเกอร์ ส่วนใหญ่มีรูปร่างกลมท่อนสั้น คล้ายไส้กรอก ยาว 5-7 ไมครอน มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 0.2-1 ไมครอน ประกอบไปด้วยโปรตีน 60-65% ลิพิด 35-40% มีเยื่อหุ้มสองชั้น

4. กอลจิคอมเพล็กซ์ (Golgi complex) คือ  เป็นออร์แกเนลล์ ที่ตั้งขึ้นตามชื่อของมิลโล กอลจิ
(camillo golgi) นักชีววิทยาชาวอิตาลี ซึ่งพบกอลจิ คอมเพล็กซ์

5. เอนโดพลาสมิกเรติคูลัม คือ เป็นท่อแบนใหญ่ บางบริเวณโป่งออกเป็นถุง เรียงขนานกันเป็นชั้น ๆ ภายในมีของเหลวบรรจุอยู่มีท่อเชื่อมถึงกันเป็นร่างแหอยู่ล้อมรอบนิวเคลียส

6. เยื่อหุ่มเซลล์ คือ (Cell membrane หรือ plasma membrane) มีลักษณะเป็นเยื่อบางประกอบด้วย  สารไขมันและโปรตีน เยื่อหุ้มเซลล์มีรูเล็กๆ ทำให้สามารถจำกัดขนาดของโมเลกุลของสารที่จะผ่านเยื่อหุ้มเซลล์ ดังนั้นเยื่อหุ้มเซลล์จึงมีสมบัติเป็นเยื่อเลือกผ่าน หรือเซมิเพอเมียเบิลเมมเบรน (impermeable membrane)

7. เเวคิวโอล คือ (Vacuole) เป็นช่องๆ ล้อมรอบด้วยเมมเบรนชนิดเยื่อยูนิตชั้นเดียว อยู่ภายในเซลล์ยูแคริโอต (eukaryotic cell) บางชนิด พบในเซลล์พืชส่วนใหญ่และสัตว์หลายชนิด โดยแวคิวโอลในสัตว์มักเล็กกว่าในพืช แวคิวโอลสามารถทำหน้าที่เป็นที่เก็บ หลั่ง และถ่ายของเหลวภายในเซลล์ 

8. ผนังเซลล์ คือ (Cell wall) ชั้นที่ล้อมเซลล์ซึ่งอยู่ถัดจากชั้นของเยื่อหุ้มเซลล์ มักพบอยู่ในพืช แบคทีเรีย อาร์เคีย เห็ดรา สาหร่าย แต่ไม่พบในสัตว์และโพรทิสต์ ผนังเซลล์ทำหน้าที่เป็นตัวค้ำจุนโครงสร้าง ปกป้องเซลล์ คัดกรองสาร และยังมีหน้าที่ป้องกันการขยายตัวมากเกินไปหากน้ำไหลผ่านเข้าสู่ภายในเซลล์

ขอขอบคุณเว็ป  https://th.wikipedia.org/wiki/แวคิวโอล

                           https://th.wikipedia.org/wiki/ผนังเซลล์

                     https://pansci121.wordpress.com

                            https://b40p47a33j38.wordpress.com

                                     https://th.wikipedia.org/wiki/กอลจิคอมเพล็กซ์

                                https://th.wikipedia.org/wiki/ไมโทคอนเดร